มสธ. จัดกิจกรรม Special Talk เรียนทางไกลในยุค AI โอกาสของทุก Generations พร้อมร่วมออกบูธนิทรรศการ ภายในงานมหกรรมหนังสือ ครั้งที่ 30 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร. ทวีวัฒน์ วัฒนกุลเจริญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้เกียรติเป็นวิทยากร โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิทูรย์ วงษ์อามาตย์ ผู้อำนวยการสถานสื่อสารองค์กร เป็นผู้ดำเนินรายการ ในกิจกรรม Special Talk ภายใต้หัวข้อ “เรียนทางไกลในยุค AI โอกาสของทุก Generations” พร้อมบุคลากรสำนักพิมพ์ มสธ. ร่วมออกบูธนิทรรศการ ภายในงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 30 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



รองศาสตราจารย์ ดร. ทวีวัฒน์ วัฒนกุลเจริญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นมหาวิทยาลัยเปิด ที่ใช้ระบบการศึกษาทางไกลโดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง “ได้ทุกที่ ทุกเวลา อยู่ที่ไหนก็เรียนได้” และภายในปี 2025 ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการปรับตัวในทุกๆมิติ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลนำมาประยุกต์ใช้ในด้านการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยฯ และรวมไปถึงการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาและผู้เรียน

มุมมองที่มีต่อ AI
AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มีบทบาทค่อนข้างมากภายในปัจจุบันซึ่งจะเห็นจากการที่เทคโนโลยีค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเข้ามามีบทบาทในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามามีบทบาทของการเรียน การดำเนินชีวิต และการทำงาน เพราะฉะนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า AI นั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของคนในสังคมเป็นที่เรียบร้อย โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ดำเนินการใช้ AI ในการผลิตองค์ความรู้และใช้ในด้านการค้นคว้าข้อมูลการวิจัย เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ให้กับนักศึกษาและผู้เรียน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยฯ ได้ยกระดับหนังสือที่ใช้สำหรับการค้นคว้าการวิจัยให้รูปแบบของ E-Book เพื่อให้นักศึกษาหรือผู้ที่ต้องการค้นคว้างานวิจัย สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบสนับสนุนการเรียนรู้ e-Learning ของมหาวิทยาลัย แต่อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยยังคงมีหนังสือในรูปแบบรูปเล่มปกติไว้ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสู่ยุคดิจิทัล
บุคลากรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถือว่า เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพและมีศักยภาพที่เพียบพร้อมต่อการนำมหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็น Digital University อีกทั้งยังส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้บรรลุตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย “มุ่งเน้นการให้การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคนในสังคม โดยใช้ระบบการสอนทางไกลเป็นหลัก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน” โดยในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของมหาวิทยาลัยสู่ยุคดิจิทัล ไม่ได้เน้นแค่ความรู้ แต่ต้องสามารถนำเอาเทคนิคและองค์ความรู้เกี่ยว AI ในยุคปัจจุบัน มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานภายในหน่วยงานได้อีกด้วย
ในส่วนการพัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัลของนักศึกษา มหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญเช่นกัน นอกจากมุ่งเน้นการพัฒนาเนื้อหาตามหลักสูตรหรือตามชุดวิชา ในระดับปริญญาตรี แผนการศึกษา ก2 และ ก3 มหาวิทยาลัยได้นำเทคโนโลยีในมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมในชั้นเรียนและพัฒนา พร้อมยกระดับการใช้งานเทคโนโลยีของนักศึกษามากยิ่งขึ้น ทั้งในระดับปริญญาโท และ ระดับปริญญาเอก จะสามารถเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในการที่นักศึกษาได้มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกใช้ในการค้นคว้าการวิจัยและเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนการสอน “เพราะองค์ความรู้ที่มาจากนักศึกษายังเป็นส่วนสำคัญหลัก ส่วน AI ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ที่ช่วยสนับสนุนการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาเพียงเท่านั้น”

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้นำเอา AI เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเนื้อหาและหลักสูตรชุดวิชา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์นักศึกษาและผู้เรียนทุกช่วงวัย เพราะ มสธ. ไม่ได้มอง AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่เข้ามามีบทบาทต่อทางด้านการศึกษา แต่มองว่าคือ โอกาสใหม่ของทุก Generations ในการเข้ามาศึกษาหาความรู้ตลอดชีวิต ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้และเรียนรู้ได้กับ มสธ. ผ่านการเรียนได้ด้วยตนเองผ่านระบบการศึกษาทางไกลและระบบสนับสนุนการเรียนรู้ e-Learning ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อีกทั้ง รองศาสตราจารย์ ดร. ทวีวัฒน์ วัฒนกุลเจริญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ฝากข้อคิดแก่ผู้ที่ร่วมรับฟังกิจกรรม Special Talk ภายใต้หัวข้อ “เรียนทางไกลในยุค AI โอกาสของทุก Generations” ไว้ดังนี้



ขอให้ทุกท่านใช้ AI ในการเป็นเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของตนเองอย่างมีความสุข “AI เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยงาน ไม่ได้มีความรู้สึก ไม่ได้มีจินตนาการ สามารถเป็นเพื่อนร่วมคิดได้ แต่อย่าให้ AI คิดแทนทั้งหมด” เพราะเราจะไม่ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะอะไรได้เลย…