มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เดินหน้าขับเคลื่อนการเป็น “มหาวิทยาลัยสีเขียว” (Green University) ในโครงการ “การเสริมสร้างความตระหนักรู้: การเข้าสู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวของโลก” อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดโครงการบริจาคครั้งสำคัญต่อเนื่อง 2 กิจกรรมในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2568 เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สร้างคุณค่าใหม่ให้สิ่งของเหลือใช้ และสนับสนุนผู้เปราะบางในสังคม
1. ส่งมอบสิ่งของบริจาค สร้างพลเมืองอาสา

เมื่อวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 มสธ. ได้ส่งมอบสิ่งของที่เปิดรับบริจาค ทั้งของใหม่และของใช้แล้วสภาพดี เช่น ยา เสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า ให้แก่ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) โดยมีผู้แทนมูลนิธิฯ เป็นผู้รับมอบ
สิ่งของบริจาคเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในโครงการ “พลเมืองอาสา” และกิจกรรมต่าง ๆ ของ มอส. เพื่อขับเคลื่อนสังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียม เช่น:
การส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กในชุมชน
การแยกยาและเวชภัณฑ์เพื่อส่งต่อให้ชุมชนรายได้น้อยและพื้นที่ห่างไกล
กิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่น ๆ
2. โครงการ “มสธ. พร้อมส่งต่อ ยาเหลือใช้” สู่ รพ.อุ้มผาง

ในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 มสธ. ได้สานต่อภารกิจเพื่อสังคม โดยส่งมอบ ยาเหลือใช้ เวชภัณฑ์ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แผ่นรองซับ เสื้อผ้า รองเท้าและของใช้สำหรับเด็ก ให้แก่ โรงพยาบาลอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวนี ชินนาลอง กรรมการสาขาวิชานิเทศศาสตร์ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยในการส่งมอบ เพื่อสนับสนุนการให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในระบบหลักประกันสุขภาพกว่า 44,000 คน ซึ่งการบริจาคครั้งนี้มีบทบาทสำคัญในการแบ่งปันทรัพยากรทางการแพทย์และลดขยะจากยาเหลือใช้
ความร่วมมือ: โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “มสธ. พร้อมส่งต่อ ยาเหลือใช้” ภายใต้การขับเคลื่อนของสถานวิเทศสัมพันธ์ มสธ. โดยได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ในการคัดแยกและจัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์ก่อนส่งมอบ
กิจกรรมบริจาคทั้งสองครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้โครงการ “การเสริมสร้างความตระหนักรู้: การเข้าสู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก – มหาวิทยาลัยสีเขียว” ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมการคัดแยกขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วอย่างยั่งยืน
มสธ. ขอขอบคุณ บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า และประชาชนทั่วประเทศ ที่ร่วมบริจาคและเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมที่ยั่งยืนในครั้งนี้